ตาม พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารฯ คำว่า “หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า ราชการส่วนกลาง ราชการ
ส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ ส่วนราชการสังกัดรัฐสภา ศาลเฉพาะที่ไม่เกี่ยวกับ
การพิจารณาพิพากษาคดี องค์กรควบคุมการประกอบวิชาชีพ หน่วยงานอิสระของรัฐและหน่วยงาน
อื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
กรณีหน่วยงานรัฐขอให้หน่วยงานรัฐอีกแห่งเปิดเผยข้อมูลข่าวสารยังมีอุทธรณ์มายังคณะกรรมการ
ข้อมูลข่าวสารของราชการอยู่ อีกตัวอย่างหนึ่งเป็นเรื่องการขอข้อมูลส่วนบุคคล แต่คณะกรรมการ
วินิจฉัยฯ พิจารณาในประเด็นที่ว่าผู้อุทธรณ์เป็นผู้มีสิทธิขอข้อมูลข่าวสารหรือไม่เป็นประเด็นแรก
เทศบาลเมืองปทุมธานี มีหนังสือถึงธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาปทุมธานี เพื่อขอข้อมูลทาง
การเงินและบัญชีเงินฝากของนางสาว อ. เพื่อยึดและหรืออายัดทรัพย์ เนื่องจากกระทำผิดทางละเมิด
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ปฏิเสธว่า เป็นข้อมูลส่วนบุคคล ไม่สามารถเปิดเผยได้
คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดินและการ
บังคับใช้กฎหมายพิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้อุทธรณ์มีฐานะเป็นราชการส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นหน่วยงาน
ของรัฐตามมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 จึงไม่ใช่ผู้ทรงสิทธิตาม
พ.ร.บ. นี้
คณะกรรมการวินิจฉัยฯ จึงให้ยกอุทธรณ์
สิ่งสำคัญประการแรก คือ หน่วยงานของรัฐจะต้องรู้ว่า พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการมี
จุดมุ่งหมายเพื่อให้ประชาชนใช้สิทธิขอข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมของรัฐ
หน่วยงานรัฐเองไม่สามารถใช้สิทธิขอข้อมูลข่าวสารตาม พ.ร.บ. นี้ได้ หากหน่วยงานรัฐทั้งหลาย
เข้าใจเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารฯ เป็นอย่างดีแล้ว การอุทธรณ์คำสั่งไม่เปิดเผยข้อมูล
จากหน่วยงานรัฐอีกแห่งคงไม่เกิดขึ้นเป็นแน่......
*******************